SCB ปี 66 กำไร 43,521 ล้านบาท พุ่ง 15.9% จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม

BAY โชว์กำไรปี 66 ที่ 32,929 ล้านบาท โต 7.2% รับรายได้ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียมพุ่ง

BBL รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น โชว์กำไรปี 66 พุ่ง 42.1% ที่ 41,636 ล้านบาท

KBANK ปี 66 กำไรโต 18.55% แตะ 42,405 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม-ตั้งสำรองสูง

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ชื่อหลักทรัพย์ SCB รายงานผลประกอบการสำหรับปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 43,521 ล้านบาท เติบโต 15.9% จากปีก่อนหน้า มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 171,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากปีก่อนหน้า เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้จากการลงทุน

ทั้งนี้เฉพาะไตรมาส 4 ปี 66 ธนาคารและบริษัทย่อย กำไรสุทธิ 10,995 ล้านบาท เติบโต 53.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยในปี 66 มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 124,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.6% จากปีก่อนหน้า เป็นผลจากการปรับตัวขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ 3.73% เทียบกับปีก่อนหน้าอยู่ที่ 3.29% ตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่มขึ้น

ด้านรายได้ค่าธรรมเนียม เท่ากับ 43,083 ล้านบาท ลดลง 4.0% จากปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมประกันภัย รวมทั้งรายได้ค่าธรรมเรียมจากธุรกิจการบริหารความมั่นคั่งที่ลดลง

ขณะเดียวกัน SCB ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เท่ากับ 43,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.9% จากปีก่อนหน้า :ซึ่งมีอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อเท่ากับ 182 เบสิสพอยท์ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ไม่สม่ำเสมอ รวมถึงรับมือกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหาภาพในอนาคตที่มีความไม่แน่นอนผ่านการประมาณการเพิ่มเติมโดยผู้บริหาร

สำหรับสินเชื่อด้อยคุณภาพ (gross NPLs) ก่อนหักค่าเผื่อขาดทุนด้านเครดิตที่ค่าว่าจะเกิดขึ้น เท่ากับ 96,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากปีก่อนหน้า โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม ที่ 3.44% เพิ่มขึ้นจาก 3.30% ของปีก่อนหน้า

SCBX คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 67จะขยายตัว 3.0% โดยการขยายตัวของการส่งออกจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน เนื่องจากการเติบโตของการค้าโลกที่เพิ่มขึ้น การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวโดยได้รับแรงหนุนจากการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น และนโยบายภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการลงทุน

นอกจากนี้ SCBX ตั้งเป้หมายสินเชื่อเติบโต 3-5% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 3.7-3.9% บนพื้นฐานของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ขณะที่การเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมคาดว่าจะอยู่ในอัตรา Low-mid single digit ส่วนใหญ่จากธุรกิจบริหารความมั่นคั่ง การขายประกัน รวมถึงค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นจากธุรกิจ Gen 2 อย่างไรก็ตามค่าธรรมเนียมจากธุรกิจตลาดทุนยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากกิจกรรมทางการตลาดที่อ่อนแอ

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ กล่าวว่า ในปี 2566 บริษัทฯ มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากวิกฤตโควิด ภายใต้การฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่ทั่วถึง ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูง ตลอดจนความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่เพิ่มสูงขึ้น บริษัทฯ เติบโตสินเชื่อผู้บริโภคแบบไม่มีหลักประกันเพิ่มขึ้นในอัตรา 24% จากปีก่อน โดยมียอดสินเชื่อคงค้างในส่วนนี้จำนวนกว่า 165,000 ล้านบาท เป็นการตอบรับแนวนโยบายภาครัฐเรื่องการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับผู้มีรายได้น้อย (financial inclusion) ของประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่ให้ผลตอบแทนมั่นคง ผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างทั่วถึง ภายใต้สภาวะตลาดทุนที่มีความผันผวนสูง

"สำหรับกลยุทธ์ในระยะต่อไป บริษัทฯ จะเน้นการเติบโตธุรกิจจากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ และบริหารต้นทุนให้เหมาะสม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน เพื่อเป็นตัวจักรสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ ขยายการบริการลูกค้าอย่างทั่วถึง และสร้างมูลค่าผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ กล่าว

อ่ายรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่ :คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.คคำพูดจาก เว็บสล็อต. 2566

 SCB ปี 66 กำไร 43,521 ล้านบาท พุ่ง 15.9% จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม

You May Also Like

More From Author