นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี67 บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้ 8,700 ล้านบาท โดยพัฒนาแอสเซทไวส์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในทุกมิติด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ มุ่งมั่นสร้างสรรค์บ้านและคอนโดคุณภาพ รวมถึงการรักษาความแข็งแกร่งของพอร์ตธุรกิจหลัก, ขยายโครงการให้เติบโตในทุกมิติทั้งด้านทำเล สินค้า และราคา และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนใหม่ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อเป็นการสร้างรายได้ต่อเนื่อง ให้กับบริษัท
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอนอยู่ที่ 19,500 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วน จากโครงการในกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 13,700 ล้านบาท, จากโครงการในทำเลอีอีซีจำนวน 1,800 ล้านบาท และ จากโครงการในภูเก็ตอีกกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี67 ต่อเนื่องไปถึงปี69
สำหรับในปี67 นี้ บริษัทจะมีโครงการที่สร้างเสร็จใหม่ จำนวน 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,807 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 9,557 ล้านบาท และยังมีโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,250 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเริ่มส่งมอบในทุกไตรมาสของปีนี้คำพูดจาก เกมสล็อตทดลองเล่น
ขณะเดียวกันยังตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 17,800 ล้านบาท เติบโต 8% จากปี66 ที่มียอดขาย 16,486 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 25,920 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 21,820 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 3 โครงการ มูลค่าโครงการ 4,100 ล้ารบาท ปัจจุบันมีที่ดินรองรับแล้วทั้งหมด
นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า ในปี67 บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับซื้อที่ดินทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้านการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนใหม่ๆ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้โครงการ Mingle Mall ที่ประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ, Well Aesthetic & Wellness Center พื้นที่เช่าสำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจประเภทศูนย์สุขภาพและคลินิกด้านความงาม บนใจกลางย่านรัชดาภิเษก
ล่าสุดได้เปิดตัวมิงเกิ้ล สปอร์ต วิลเลจ ศูนย์กีฬาในร่มเอาใจสายรักสุขภาพ รวมถึง Rocket Fitness ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เทรเชอร์ เอ็ม จำกัด ในเครือ ASW อีกทั้ง ยังมี ZAAP World ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอนเสิร์ตและอีเวนท์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนโครงการต่างๆของบริษัทในช่วง 2-3 ปี จะมีความสมดุลมากขึ้น โดยที่สัดส่วนคอนโดมิเนียมจะลดลงมาอยู่ที่ 50% จากปัจจุบันที่ 80-90% สัดส่วนโครงการแนวราบจะเพิ่มขึ้นมาที่ 20% และสัดส่วนโครงการในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นมาที่ 30% โดยที่รายได้ที่มาจากภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นมา จากการทยอยรับรู้รายได้จาก TITLE เข้ามาเต็มปีตั้งแต่ปี 67 โดยในช่วงปี 67 จะมีการทยอยโอนโครงการ The Title Halo และในปี 68 จะมีการโอนโครงการ THE TITLE LEGENDARY บางเทา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนผลการดำเนินงานของ ASWคำพูดจาก สล็อตทดลองเล่นฟรี